เครื่องชงกาแฟสด เริ่มมีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้นสำหรับคนที่รักการดื่มกาแฟ ที่ชีวิตปัจจุบันเรานี้ เรียกได้ว่าฟาสทุกวินาทีเลยล่ะค่ะ และการที่ได้ดื่มกาแฟหอม ๆ สักแก้วตอนเช้ามันรู้สึกดีจนปฏิเสธไม่ได้เลยจริง ๆ แต่สำหรับชีวิตที่เร่งรีบ จะให้มาละเมียดละไมค่อย ๆ ชงกาแฟดื่มเอง หรือไปเข้าคิว walk in ที่ร้านก็เสียเวลาอยู่ไม่น้อย วันนี้ทาง (ชื่อเว็บ) เราจึงอยากมาแนะนำ fresh coffee machine ที่ทันสมัย มาเป็นตัวเลือกให้กับเพื่อน ๆ กันค่ะ
7 เครื่องชงกาแฟ เปลี่ยนวันที่เร่งรีบให้เป็นวันที่ง่าย ๆ
1. Nespresso Atelier
เครื่องชงกาแฟแบบแคปซูล ทันสมัย จัดเต็มพร้อมฟังก์ชันที่สะดวกสบาย ที่มาพร้อมดีไซน์ที่สวยเพรียวบาง รูปทรงกะทัดรัด จะวางไว้มุมไหนของบ้านก็ไม่เกะกะ รุ่นนี้ออกแบบให้มีโหมดตีฟองนมภายในเครื่องและสามารถตีฟองนมสดได้มากกว่า 3 แบบ รับรอบว่าตอบโจทย์คอกาแฟอย่างแน่นอน เพราะรังสรรค์เมนูกาแฟได้ถึง 9 เมนู ตัวเครื่องมีแรงดันมากถึง 19 บาร์ และมีระบบทำความร้อนที่เร็วภายในไม่กี่นาทีเท่านั้นค่ะ
2. JIALEMEI
มาต่อกันที่เครื่องชงกาแฟ Edoolffe ที่มีขนาดเล็ก ขนาดบรรจุ 1 ลิตร เหมาะสำหรับมือใหม่หัดทำกาแฟ ด้วยราคาเบา ๆ มีขนาดแรงดัน 5 บาร์ สำหรับเครื่องนี้มีโหมดตีฟองนมแบบละเอียด ทำให้ได้ฟองนมที่หนาและนุ่ม นอกจากนี้ยังสามารถรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มต่าง ๆ ได้หลากหลาย ใช้งานได้ทนทานเพราะทำมาจากอลูมิเนียมกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง ด้านบนของตัวเครื่องยังสามารถอุ่นแก้วกาแฟได้ โดยรวมแล้วใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
3. Duchess รุ่น CM3000B
เครื่องชงกาแฟดีไซน์เรียบหรู ยอดนิยม ที่มาพร้อมเทคโนโลยีระบบ Thermoblock คอนโทรลอุณหภูมิให้คงที่ตั้งแต่แก้วแรกไปจนถึงแก้วสุดท้าย สามารถรังสรรค์เมนูเครื่องดื่มได้ทั้ง กาแฟ นม หรือเครื่องดื่มร้อนประเภทอื่น ๆ มีโหมดปรับเลือกระดับการใช้งานและระบายแรงดันออโต้ มีไฟเลทแสดงสถานะ เครื่องนี้มีแรงดันน้ำ 15 บาร์ และความจุประมาณ 1.5 ลิตร
4. Smeg รุ่น ECF01RDEU
เครื่องชงกาแฟระบบ Thermoblock อีกรุ่นที่น่าสนใจ มีระบบควบคุมความร้อนกระจายได้ทั่วถึง มีฟังก์ชันการทำงานให้เลือกปรับได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น การจ่ายน้ำ, การปรับความด้างของน้ำ, เลือกจำนวนช็อตกาแฟ นอกจากนี้ยังสามารถชงได้ทั้งชา กาแฟ เครื่องดื่มร้อนประเภทอื่นได้ และยังมีโหมดตีฟองนมที่นุ่มละเอียด ในส่วนของแรงดันน้ำมีแรงดัน 15 บาร์ ใช้กำลังไฟ 1,350 วัตต์ และมีความจุ 1 ลิตร
5. La Pavoni รุ่น Puccino Dose
เครื่องชงกาแฟแบรนด์อิตาลี น่าซื้อมาไว้ติดบ้านอีกเครื่องหนึ่ง รุ่นนี้มีระบบรองรับน้ำถึง 2 ระดับ ทั้งแบบ Single หรือ Double ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบาเพราะทำจากพลาสติกเกรดพรีเมียมแต่หุ้มด้วยสเตนเลสสตีล รุ่นนี้อาจมีราคาแรงหน่อย แต่รับรองเลยว่าคุ้มและทนทานมาก มีความจุน้ำ 1.2 ลิตร และแรงดันน้ำ 5 บาร์ ใช้กำลังไฟ 1,100 วัตต์ นอกจากนี้ยังพิเศษตรงที่มีชุดอุปกรณ์การทำคาปูชิโน่ให้สำหรับบาริสต้ามือใหม่หัดตีฟองนมอีกด้วย
6. Nespresso รุ่น Gran Lattissima
รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อเอาใจสายฟองนมทั้งหลาย เพราะมาพร้อมเครื่องทำฟองนมในตัว สัมผัสเพียงปุ่มเดียวแต่รังสรรค์เมนูเครื่องดื่มได้ถึง 9 เมนู ใช้งานสะดวกมาก มีระบบทำความร้อนที่เร็วไม่เกิน 1 นาที และมีแรงดันน้ำสูงถึง 19 บาร์ ล้างทำความสะอาดได้ง่าย สามารถถอดอุปกรณ์มาล้างได้ และมีระบบปิดตัวเองแบบออโต้ หลังจากที่ไม่ได้ใช้งานนาน 9 นาที
7. Ascaso รุ่น Dream
ปิดท้ายด้วยเครื่องชงกาแฟระบบ Thermoblock อีกหนึ่งเครื่องจากสเปน ดีไซน์สวย หรู ที่มีระบบต้มน้ำเร็วและมีหลายสีให้เลือกทั้งสีเขียว แดง ชมพู ม่วง และน้ำเงิน รุ่นนี้คุมความร้อนได้คงที่ทำให้ชงกาแฟได้ต่อเนื่อง แม้กำลังไฟจะเพียง 900 วัตต์ แต่มีแรงดันน้ำสูง 16 บาร์ ความจุอยู่ที่ประมาณ 1.3 ลิตร พอดี ชงได้หลายแก้ว
การจะหาซื้อเครื่องชงกาแฟสดสักเครื่องหนึ่ง สิ่งที่ควรคำนึงมากกว่าเรื่องค่าใช้จ่ายคือ ความถี่ในการดื่ม หากเพื่อน ๆ ดื่มเพียงวันละ 1 แก้วในช่วงเช้า ก็ควรเลือกเครื่องขนาดเล็กก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเป็นคนชอบดื่มกาแฟบ่อย ๆ หรือในบ้านมีคนที่ชอบดื่มกาแฟเหมือนกันแล้วละก็ ควรเลือกตัวเครื่องที่มีโหมด Double Boiler จะคุ้มกว่ามาก ทั้งตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่กว่า มีโหมดควบคุมความร้อนคงที่ และประหยัดค่าใช้จ่ายระยะยาวอีกด้วย ใครสนใจอยากดูเครื่องชงกาแฟรุ่นอื่น ๆ ลองตามดูเพิ่มเติมลิงก์นี้ได้เลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับ 7 เครื่องชงกาแฟสด ที่ครอบคลุมการใช้งานและทำให้เช้าที่เร่งรีบของบรรดาคอกาแฟง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น หากเพื่อน ๆ ซื้อรุ่นไหนมาแล้ว ลองมารีวิวแบ่งปันกับทางเราได้นะคะ เผื่อจะได้ตามบ้าง สำหรับวันนี้ต้องขอตัวไปหากาแฟสดดื่มสักแก้วก่อนนะคะ แล้วกลับมาพบกันใหม่กับเรื่องราวของกาแฟกันอีกเช่นเคยค่ะ
แหล่งที่มาของภาพ :
https://th-test-11.slatic.net/
บทความที่อาจสนใจ กาแฟ Maxim กาแฟสำเร็จรูปเจ้าแรกของเกาหลีใต้